ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาก กระแสการออกกำลังกาย การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก โดยในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกเรื่องการวิ่งกันค่ะ การวิ่งนั้นนอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว การวิ่งยังสามารถช่วยเรื่องระบบความจำ ช่วยลดความเครียด ปรับสุขภาพจิตของผู้ออกกำลังกายให้ดีขึันอีกด้วย
1. การวิ่งช่วยเราลดความเครียดลงได้ เพราะระหว่างการวิ่งออกกำลังกายนั้น ร่างกายจะผลิตสารที่ชื่อเอนโดแคนนาบินอยด์ (endocannabinoids) ออกมาค่ะ เจ้าสารตัวนี้จะช่วยลดความเครียดได้
2. ช่วยทำให้เราอารมณ์ดี การวิ่งจะทำให้การไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงสมองเพิ่มขึ้น โดยไปกระตุ้นสมองให้เรามีอารมณ์ที่ดีขึ้น นอกจากช่วยลดเครียดแล้ว ในผู้ป่วยซึมเศร้าก็สามารถวิ่งออกกำลังกายได้ เพราะจะช่วยลดอาการซึมเศร้าลงได้ ในบางงานวิจัยยังกล่าวอีกว่า การวิ่งมีประสิทธิภาพเทียบเท่าการใช้ยาในผู้ป่วยซึมเศร้า แต่มันดีกว่าเพราะไม่มีผลข้างเคียง (อ้างอิงจาก https://shorturl.asia/Kmqi3)
3. ช่วยในเรื่องการนอนหลับ นอกจากจะช่วยผู้ป่วยซึมเศร้าแล้ว การวิ่งยังช่วยให้เรานอนหลับสนิท เพราะเมื่อร่างกายได้รับสารเอ็นดอร์ฟินจากการวิ่ง จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและหลับสนิท
4. ช่วยให้ปอดกับหัวใจของเราแข็งแรง การออกกำลังกายที่ดีควรออกอย่างน้อย 30 นาที การวิ่งก็เช่นกัน เพียงแค่วันละ 30 นาทีแต่ผลลัพธ์ที่ได้นอกจาก 3 ข้อข้างต้นแล้ว ยังช่วยทำให้ปอดและหัวใจของเราแข็งแรงอีกด้วย เมื่อเราได้ทราบประโยชน์มากมายจากการวิ่งแล้ว ทีนี้ อุปกรณ์ที่มาช่วยซัพพอร์ตเท้าและข้อเข่าของเราก็เป็นเรื่องสำคัญ เรากำลังจะพูดถึง “รองเท้าวิ่ง”หลายๆ คนมักจะเข้าใจผิดว่า “ใส่รองเท้าอะไรก็วิ่งได้” รองเท้าแต่ละประเภทออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานตามความเหมาะสมค่ะ ถ้าเราเลือกเอารองเท้าผ้าใบใส่เดินธรรมดามาใช้วิ่ง มีผลเสียตามมาแน่นอน
ทั้งการวิ่งและการเดินถือเป็นเรื่องที่ดีที่ถ้าทำเป็นประจำแล้ว จะเห็นผลได้ชัดเจนทั้งเรื่องของสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต บางคนได้สมาธิจากการวิ่งด้วย แต่ข้อควรคำนึงอย่างหนึ่งคือ เราควรเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่เราจะทำ การวิ่งกับการเดินนั้นต่างกันค่ะ แม้ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายในอิริยาบถที่คล้ายกันก็ตาม การเดินมีโอกาสบาดเจ็บแค่ 1-5% แต่การวิ่งนั้นจะมีแรงกระแทกมากกว่าการเดินหลายเท่าและมีโอกาสบาดเจ็บได้ถึง 20-70% เลยทีเดียวค่ะ (อ้างอิงจาก : https://shorturl.asia/MNqCc) และลักษณะการวิ่งของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ลักษณะการลงน้ำหนักเท้าต่างกัน รองเท้าวิ่งจึงออกแบบมาเพื่อรองรับความแตกต่างของผู้วิ่งค่ะ และยังช่วยซัพพอร์ตข้อเท้า ข้อเข่าของเราอีกด้วย
1. รองเท้าวิ่งมีการยืดหยุ่นมากกว่ารองเท้าผ้าใบธรรมดา รองเท้าสำหรับเดินทั่วๆ ไปจะมีความยืดหยุ่นไม่เท่ารองเท้าวิ่ง รองเท้าเดินนั้นมีลักษณะโครงสร้างที่แข็งกว่ารองเท้าวิ่ง และมีน้ำหนักมากกว่า
2. รองเท้าวิ่งมีเทคโนโลยีที่มาช่วยซัพพอร์ตแรงกระแทก การวิ่งจะมีแรงกระแทก ดังนั้นรองเท้าที่จะใส่สำหรับวิ่งควรเป็นรองเท้าที่สามารถรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ ซึ่งการรับน้ำหนักและแรงกระแทกนั้น รองเท้าวิ่งออกแบบมาเพื่อรองรับแรงกระแทกที่ส้นเท้าและที่ปลายเท้า ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆ ต้องวิ่งระยะทางไกลๆ การเลือกรองเท้าให้เหมาะสมนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ
แต่ไม่ใช่ว่า เราซื้อรองเท้าวิ่งมาคู่เดียวแล้วจบนะคะ ถ้าเพื่อนๆ เป็นสายวิ่งจริงจัง ต้องคอยหมั่นสังเกตรองเท้าของเราด้วยค่ะ เพราะรองเท้าวิ่งนั้นก็มีอายุการใช้งานของมัน โดยทั่วไปแล้วอายุการใช้งานของรองเท้าวิ่งจะอยู่ที่ประมาณ 500-800 กิโลเมตรค่ะ แต่ก็ต้องดูด้วยว่า เราใช้คู่นี้สมบุกสมบันแค่ไหน
1. รู้สึกว่าเมื่อใส่รองเท้าวิ่งแล้วมีอาการเมื่อยเท้า ไม่สบายเท้าเหมือนเดิม
2. เมื่อมีการชำรุดเกิดขึ้นของรองเท้าวิ่ง เช่น ฉีกขาด หรือส้นรองเท้าสึก
3. เริ่มรู้สึกว่ารองเท้าวิ่งรับแรงกระแทกได้ไม่ดีเท่าเดิม
4. รองเท้าวิ่งมีรูปทรงอ่อนย้วยเมื่อลองจับรองเท้าบิดแล้วเสียรูป
ถ้าหากเพื่อนๆ กำลังมองหารองเท้าวิ่งที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเพื่อนๆ สักคู่ วันนี้ REV RUNNR ผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าในกลุ่มสปอร์ต (Sportswear and Footwear) จากแบรนด์ชั้นนำมากมาย ทั้งเสื้อผ้า รองเท้าวิ่ง รองเท้าวิ่งเทรล รองเท้าวิ่งมาราธอน รองเท้าบาสเกตบอล และอุปกรณ์วิ่งอื่น ๆ สำหรับทุกเพศ ทุกวัย ให้คุณเตรียมความพร้อมได้ทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนลงวิ่งวัดใจในงานมาราธอนครั้งหน้า ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้าทั้งหมดได้ที่ www.rev.co.th หรือแชทติดต่อรับคำปรึกษาและช็อปปิ้งผ่าน LINE @sportsrev ได้เลย
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.rev.co.th
ติดต่อ : https://www.rev.co.th/contact-us
Line: คลิกเพิ่มเพื่อน
Facebook : https://www.facebook.com/sportsrev.th
Instagram : https://www.instagram.com/rev.runnr